อากาศร้อนขนาดนี้ จะมีอะไรดีกว่ากินไอศกรีมเย็น ๆ สักถ้วยให้ชื่นใจ แต่ไม่อยากจะออกพ้นหน้าบ้าน วันนี้
กระปุกดอทคอมเลยนำสูตรการทำไอศกรีมง่าย ๆ
แบบไม่ต้องใช้เครื่องมาฝากให้ทำกินเองกันที่บ้านเสียเลย 10 รสชาติ 10
แบบให้เลือกกันได้อย่างจุใจ พร้อมแล้วก็จดสูตรไปเลยจ้า
1. ไอศกรีมชาเขียว
เริ่มต้นความเย็นชุ่มฉ่ำกันด้วยไอศกรีมชาเขียวสไตล์ญี่ปุ่นที่ใครจะไปรู้ว่า
ไม่ต้องมีเครื่องทำไอศกรีมก็สามารถทำได้ด้วย
ถึงแม้เนื้อจะไม่เนียนละเอียดแต่ก็ช่วยให้คลายร้อนได้เพลิน ๆ
แถมยังโปะถั่วแดงกวนลงไปด้วย เพลินล่ะ
(สูตรจาก คุณเนินน้ำ)
สิ่งที่ต้องเตรียม 
นมข้นจืด 2 1/2 ถ้วย

วิปปิ้งครีม 1/2 ถ้วย

ผงชาเขียวมัชฉะ 3 ช้อนโต๊ะ

ไข่แดง 2 ฟอง

น้ำตาลทรายละเอียด 1/2 ถ้วย

เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

ถั่วแดงกวน (ตกแต่ง)

สะระแหน่ (ตกแต่ง)

เชอร์รีสำหรับแต่ง (ตกแต่ง)
วิธีทำ

ผสมนมข้นจืดและวิปปิ้งครีมเข้าด้วยกันด้วยตะกร้อมือในอ่างผสม แล้วร่อนผงชาเขียวมัทฉะใส่ลงไปคนผสมอีกครั้งให้เข้ากันดี พักไว้

ตีผสมไข่แดงจนข้นเป็นสีครีมนวล จึงค่อย ๆ ใส่น้ำตาลและเกลือลงไป พร้อมกับตีจนน้ำตาลทรายละลาย

เทส่วนผสมลงในถาดก้นตื้นแล้วนำเข้าแช่แข็ง (เราใช้ตู้แช่แข็ง
เพราะมีความเย็นมากพอที่จะทำให้เซ็ตตัวได้เร็ว)
เมื่อไอศกรีมเริ่มจับตัวแข็งพอสมควรก็เอามาขูดด้วยส้อม
จากนั้นก็เข้าแช่แข็งอีกทำแบบนี้สัก 3 ครั้งหรือมากกว่านั้น
(ใส่กล่องที่มีฝาปิด) พอไอศกรีมแข็งแล้วก็ตักเป็นลูกกลม ๆ ใส่ถ้วย
ท้อปด้วยถั่วแดง พร้อมเสิร์ฟ
2. ไอศกรีมวานิลลา
ไอศกรีมรสชาติพื้นฐานที่ใคร ๆ ก็เคยกิน
ถ้าอย่างนั้นก็ลองลงมือทำไอศกรีมรสวานิลลาแบบง่าย ๆ
ไม่ต้องใช้เครื่องเก็บติดไว้ในตู้เย็นสักหน่อยเอง พออากาศร้อนจัด ๆ
ก็หยิบออกจากตู้ตักเข้าปากก็เย็นฉ่ำชื่นใจได้ทุกเวลาแล้ว
ส่วนผสม 
ไข่ไก่ 2 ฟอง

ไข่แดง 4 ฟอง

น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย

เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

ฝักวานิลลา 1 ฝัก

เฮฟวีครีม (Heavy Cream) 1 ถ้วย

น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ

กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
อุปกรณ์ 
หม้อสำหรับตุ๋น

อ่างน้ำผสมน้ำแข็ง
วิธีทำ 
1. เตรียมหม้อสำหรับตุ๋น และอ่างน้ำผสมน้ำแข็ง เตรียมไว้

2. ใส่ไข่ไก่ ไข่แดง น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย เกลือป่น
และขูดเมล็ดวานิลลาลงในหม้อตุ๋น พร้อมฝักวานิลลา ตุ๋นนานประมาณ 10 นาที
(หมั่นตีผสมบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้ส่วนผสมแยกชั้น)
ตีจนส่วนผสมเริ่มเหนียวและเป็นฟอง (ถ้าจะให้ดี
ใช้เทอร์โมมีเตอร์จุ่มลงไปวัดความร้อนประมาณ 160 องศาเซลเซียส)
จากนั้นยกลงจากเตา วางลงในอ่างน้ำแข็งทันที แล้วตักเอาฝักวานิลลาออก
พักไว้จนเย็น

3. ตีเฮฟวี่ครีมจนขึ้นฟู ใส่น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ และกลิ่นวานิลลาลงไป ตีผสมจนขึ้นฟูอีกครั้ง

4. นำส่วนผสมคัสตาร์ดออกจากอ่างน้ำแข็ง แบ่งใส่วิปปิ้งครีมครั้งละ 1/3
ส่วน คนผสมให้เข้ากันจนหมด จากนั้นเทใส่พิมพ์ ปิดด้วยพลาสติกถนอมอาหาร
นำเข้าแช่แข็งอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ก่อนเสิร์ฟ
3. เจลลีเกล็ดหิมะ
หรือถ้าใครอยากได้ไอศกรีมแบบเนื้อหนึบหน่อย เนื้อไม่เนียบกริบ
แต่ได้สัมผัสเหมือนน้ำแข็งใส่ก็ต้องนี่เลย
เจลลี่เกล็ดหิมะที่มีส่วนผสมของเจลาติน ได้ทั้งความเย็นฉ่ำ
เนื้อสัมผัสเหนียวหนึบ และรสชาติเปรี้ยวอมหวานแบบฟรุตตี
(สูตรจาก จาก Tips from a Typical Mom)
สิ่งที่ต้องเตรียม 
น้ำเดือด 1 ถ้วย

สไปร์ท หรือโซดา 2 ถ้วย

ผงเจลาตินสำเร็จรูปกลิ่นที่ชอบ (ขนาด 85-100 กรัม) จำนวน 4 กล่อง

พิมพ์หรือถาดสี่เหลี่ยม (สำหรับใส่ไอศกรีม)
วิธีทำ

1. ผสมผงเจลาตินสำเร็จรูปกับน้ำเดือดในถาดสี่เหลี่ยม คนผสมให้เข้ากันจนผงวุ้นละลาย

2. จากนั้นเติมสไปร์ทหรือโซดาลงไปผสม คนให้เข้ากัน

3. นำถาดส่วนผสมไปแช่แข็ง ทิ้งไว้อย่างน้อย 4 ชั่วโมง หรือข้ามคืน

4. ก่อนเสิร์ฟให้ใช้ที่ตักไอศกรีม ค่อย ๆ ขูดเจลลี่เกล็ดหิมะออกแล้วตักเป็นก้อนกลม ๆ ใส่แก้วให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ
4. ไอศกรีมชาไทย
ถ้าใครชอบกินชาเย็นหรือชาชักแบบเข้มข้นแต่รู้สึกว่ายังไม่ชื่นฉ่ำหัวใจพอ
ต้องจับชาเย็นมาทำเป็นไอศกรีมชาเย็นแบบง่าย ๆ ตามสูตรที่เรานำมาฝากเลย
ส่วนผสมแค่ 2 อย่าง แต่รับรองว่าเข้มข้น เด็ดโดนใจได้รสชาติแบบไทย ๆ
ที่เราคุ้นเคย
(สูตรจาก คุณอ้อมกอดของความเหงา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม)
ส่วนผสม 
น้ำชาเย็น 1-1/2 ถ้วย

วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย (หรือ Fresh Whipping Cream)
วิธีทำ 
1. ต้มผงชากับน้ำ น้ำตาลทราย และใส่เกลือป่นลงไปเล็กน้อย (เพื่อคสวามกลมกล่อม)
เคล็บลับ : ใครอยากได้สีเข้มหรือสีอ่อนแค่ไหนก็แล้วแต่จะใส่ผงชาลงไป มากหรือน้อยแค่ไหน แต่เราชอบสีเข้ม ๆหน่อยสวยดี

2. ยกลงกรองเอากากชาออกพักให้เย็นแล้วนำไปแช่ในช่องแช่แข็งให้พอเป็นเกล็ดน้ำแข็ง

3. นำส่วนผสมออกจากช่องแช่แข็ง
ใส่ลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ตามด้วยวิปปิ้งครีม
ปั่นจนเนียนแล้วเทใส่ลงในภาชนะ นำเข้าแช่แข็ง แล้วนำออกมาอีกครั้ง
ปั่นประมาณ 2-3 รอบให้ได้เนื้อเนียน
5. ไอศกรีมอัญชัน
ถ้าเดินไปเจอกับดอกอัญชันริมรั้วละแวกบ้านแนะนำให้เด็ดมาสัก 1
กำมือแล้วมาทำไอศกรีมอัญชันสีพาสเทลม่วงอมน้ำเงินอ่อน ๆ ได้ความเป็นไทย
ที่เชื่อว่าหลายคนต้องยังไม่เคยลองแน่ ๆ แถมวิธีทำก็ง่าย ๆ แบบนี้
อย่ารอช้าค่ะ คั้นน้ำอัญชันเตรียมไว้เลย
(สูตรจาก คุณอ้อมกอดของความเหงา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม)
ส่วนผสม 
ดอกอัญชันสดหรือแห้ง

น้ำ

น้ำตาลทราย (ตามชอบ)

เกลือ เล็กน้อย

วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย (สามารถเพิ่มวิปปิ้งครีมได้ จะได้เนื้อไอศกรีมที่มีความเข้มข้นขึ้นไปอีก)
วิธีทำ 
1.
ต้มดอกอัญชันกับน้ำจนเดือด ใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไป รอจนเดือดอีกครั้ง
(ชิมรสให้ออกหวานนิดนึงและสีเข้มมากน้อยก็ตามใจเลยค่ะ) ยกลงจากเตา
พักทิ้งไว้จนเย็น จากนั้นกรองเอาเฉพาะน้ำ เทใส่ภาชนะ
จากนั้นนำเข้าช่องแช่แข็งให้เริ่มจับตัวเป็นเกล็ดน้ำแข็ง

2. นำเกล็ดน้ำแข็งอัญชันและวิปปิ้งครีมอย่างละ 1 ถ้วยใส่เครื่องปั่น
ปั่นให้เข้ากัน (ใช้อัตราส่วน 1 : 1
หรือใครจะใส่วิปปิ้งครีมเพิ่มเพื่อให้เนื้อเนียนและเข้มข้นก็ได้)

3. เทส่วนผสมที่ปั่นแล้วใส่กล่องแล้วนำเข้าแช่แข็งจนเริ่มเป็นเกล็ดน้ำแข็ง
จากนั้นนำออกมาปั่นอีกครั้ง เทใส่ภาชนะแล้วนำไปแช่จนถึงเวลารับประทาน
เคล็ดลับ : ถ้า
อยากตักไอศกรีมแล้วละลายช้าและเป็นลูกสวย
ให้นำที่จะตักไอศกรีมและถ้วยสำหรับใส่ไอศกรีมไปแช่ในช่องแข็ง
และถ้าเป็นพวกถ้วยกระเบื้องหรือแก้วจะเก็บความเย็นดีมาก ไอศกรีมจะละลายช้า)
6. ไอศกรีมแท่งชาเขียวถั่วแดง
ลองมาดูทางฝั่งของไอศกรีมแท่งแบบง่าย ๆ กันบ้าง ลดสเกลความยากลงมาหน่อย
เปิดประเดิมด้วยไอศกรีมแท่งชาเขียวเนื้อเข้มข้นหวานมัน
แถมยังแอบซ่อนถั่วแดงกวนเอาไว้ด้านล่าง ได้อารมณ์เหมือนญี่ปุ่นแท้ ๆ
ที่สำคัญทำง่าย ๆ รีบไปขุดเอาพิมพ์ไอศกรีมแท่งมาล้างรอไว้ได้เลย
(สูตรจาก เฟซบุ๊ก Rin Silpachai)
ส่วนผสม 
ผงชาเขียวมัทฉะ 4 ช้อนโต๊ะ

น้ำร้อน 3-4 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย (หรือน้ำตาลทรายแดง,น้ำผึ้ง) 3 ช้อนโต๊ะ

นมข้นหวาน 5 ช้อนโต๊ะ

เฮฟวี่ครีม (หรือนมสด,นมถั่วเหลือง) 350 มิลลิลิตร (ประมาณ 1 1/2 ถ้วย)

ถั่วแดงญี่ปุ่นชนิดหวาน 1/3 ถ้วย

พิมพ์ไอศกรีมแท่ง

ไม้ไอศกรีม (แช่น้ำทิ้งไว้ 15 นาที)
วิธีทำ 
1. ใส่ผงชาเขียวลงในถ้วยผสม (ถ้วยที่มีปากเพื่อเทลงพิมพ์ได้ง่ายขึ้น) ตามด้วยน้ำร้อน คนผสมให้ผงชาเขียวละลายจนไม่เป็นเม็ด

2. เติมน้ำตาลทรายลงไป คนผสมให้เข้ากันจนน้ำตาลทรายละลาย

3. เติมนมข้นหวานลงไป คนผสมให้เข้ากัน

4. เติมเฮฟวี่ครีมลงไป คนผสมให้เข้ากัน

5. เทส่วนผสมลงพิมพ์ไอศกรีมจนเกือบเต็ม นำเข้าแช่แข็งประมาณ 1 ชั่วโมง

6. พอไอศกรีมแข็งแล้วนำไอศกรีมออกจากช่องแข็ง
ตักถั่วแดงใส่แล้วเสียบไม้ไอศกรีมลงไป นำไปแช่แข็งอีกครั้งประมาณ 5 ชั่วโมง
แกะออกจากพิมพ์ (ถ้าแกะไม่ออกให้นำพิมพ์ไปผ่านน้ำอุ่นแล้วค่อย ๆ ดึงออก)
พร้อมเสิร์ฟ
7. ไอศกรีมแท่งผลไม้สด
ส่วนสาว ๆ
ที่ไม่อยากกินไอศกรีมที่มีส่วนผสมของไขมันนมเนยให้ระคายหุ่นก็ต้องเจอนี่
ไอศกรีมแท่งผลไม้สด ตอบโจทย์ทั้งความสดชื่น ดับร้อน อร่อย ได้ประโยชน์
และที่สำคัญคือ แคลอรีต่ำมาก ๆ กัดคำเดียวเปรี้ยวจี๊ดถึงใจ
(สูตรจาก คุณ MMW สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม)
สิ่งที่ต้องเตรียม 
น้ำผลไม้ตามชอบ (สุตรนี้ใช้น้ำผลไม้แคลอรี่ต่ำ)

ผลไม้ตามชอบ เช่น แอปเปิล, กีวี, สตรอว์บอร์รี และบลูเบอร์รี

พิมพ์สำหรับทำไอศกรีม

ไม้ไอศกรีม
วิธีทำ

1. นำผลไม้มาหั่นเป็นชิ้น ๆ พอดีคำแล้วจัดผลไม้ใส่ลงในพิมพ์ไอศกรีมให้แน่น

2. เทน้ำผลไม้ลงไป เสียบไม้ไอศกรีมแล้วนำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 4-6 ชั่วโมง แกะออกจากพิมพ์ พร้อมรับประทาน
8. พุชป๊อปซอร์เบท
ถ้าที่บ้านมีผลไม้เปรี้ยว ๆ
อยู่หลายอย่างแล้วอยากทำไอศกรีมหวานเย็นที่มีแต่เนื้อผลไม้เน้น ๆ
เรามีวิธีทำพุชป๊อปซอร์เบทมาแนะนำ อีกหนึงไอศกรีมแคลอรี่ต่ำ ได้รสผลไม้แท้ ๆ
เน้น ๆ วิตามินซีเพียบ ทั้งจากมะม่วงสุก กีวี แบล็คเบอร์รี และราสเบอร์รี
ที่สำคัญยังสวยสลับสีสวยงามเก๋ไม่ซ้ำใครด้วย
(สูตรจาก brit.co)
สิ่งที่ต้องเตรียม 
มะม่วงสุกหั่นเต๋า 1 ถ้วย

กีวีสไลซ์บาง 1 ถ้วย

ราสป์เบอร์รี่แช่แข็ง 1 ถ้วย

แบล็คเบอร์รีแช่แข็ง 1 ถ้วย

น้ำเชื่อม 2 ถ้วย (แบ่งเป็น 4 ส่วน)

พิมพ์พุชป๊อป (หรือถ้าไม่มีใช้พิมพ์อื่นแทนได้)
วิธีทำ

1.
ปั่นเนื้อมะม่วงสุกกับน้ำเชื่อม 1/2
ถ้วยเข้าด้วยกันจนส่วนผสมละเอียดเป็นเนื้อเดียว
และทำเช่นเดียวกันกับผลไม้อีก 3 อย่าง
เทใส่แก้วนำเข้าแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
(หลังจากที่ปั่นผลไม้เสร็จแล้วอย่าลืมตักเม็ดแบล็คเบอร์รี
และราสเบอร์รีออกด้วย)

2. ทำชั้นที่ 1 โดยวางพิมพ์พุชป๊อบในแก้ว ตักมะม่วงปั่นใส่ลงในพิมพ์ประมาณ
1/3 ของพิมพ์ แล้วนำไปแช่แข็งจนเกือบแข็ง
หลังจากนั้นจึงค่อยนำออกมาเติมผลไม้ปั่นชั้นที่ 2 ต่อไป
เคล็ดลับ : ถ้าไม่อยากให้มีฟองอากาศเกิดขึ้นระหว่างชั้นให้เริ่มต้นด้วยมะม่วง และกีวีปั่นใส่ลงไปก่อน เพราะมีเนื้อเหนียวทำให้เกิดฟองอากาศน้อย

3. ทำชั้นที่ 2 ด้วยตักกีวีปั่นทับลงไปแล้วนำกลับไปแช่เย็นอีกครั้งจนแข็ง และทำซ้ำตามขั้นตอนเดิมจนกว่าจะเต็มพิมพ์

4. หลังจากที่ใส่ผลไม้ปั่นชั้นสุดท้ายลงไปในพิมพ์แล้ว ก็ปิดฝาครอบ
และนำกลับไปแช่เย็นอีกครั้งอย่างน้อยประมาณ 4 ชั่วโมง
หรือข้ามคืนก่อนรับประทาน
9. ไอศกรีมกล้วยบวชชี
ใครจะไปเชื่อว่ากล้วยบวชชีจะมาทำเป็นไอศกรีมได้ด้วย ขอบอกเลยว่า
อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ
คราวหน้าคราวหลังถ้าซื้อกล้วยบวชชีมาแล้วกินไม่หมด
แนะนำให้จับมาทำไอศกรีมแท่งชิ้นจิ๋วเก๋ ๆ แบบนี้ดู เปลี่ยนขนมไทยบ้าน ๆ
ให้กลายเป็นขนมอินเตอร์ ๆ รับรองว่าไม่ซ้ำใครแน่นอน
(สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน)
ส่วนผสม 
กะทิ (เข้มข้นปานกลาง) 1 ถ้วย

กล้วยน้ำว้า 100 กรัม (ต้มสุกหั่นเป็นชิ้น)

น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ

เกลือป่นหยาบ 1/2 ช้อนชา

เนื้อมะพร้าวเผา (หั่นเป็นชิ้น) 50 กรัม

กล้วยน้ำสุกห่าม ต้มสุกหั่นแว่น (สำหรับใส่ในพิมพ์)

พิมพ์ไอศกรีมตามชอบ

ไม้เสียบไอศกรีม
วิธีทำ 
1. ใส่กะทิลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟ พอร้อน

2. ใส่กล้วยน้ำว้าลงต้ม พอเดือดใส่น้ำตาลปี๊บและเกลือป่น ต้มต่อจนกล้วยน้ำว้านิ่ม

3. ใส่เนื้อมะพร้าวเผา คนผสมพอเข้ากันดี ยกลงจากเตา

4.ใส่กล้วยนน้ำว้าหั่นแว่น ลงในพิมพ์

5. ตักส่วนผสมในข้อที่ 3 ลงในพิมพ์จนเต็ม จากนั้นเสียบไม้ไอศกรีมลงตรงกลาง
นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็งประมาณ 1 คืน หรือจนแข็งตัว จัดเสิร์ฟ
10. ไอศกรีมโยเกิร์ต
ปิดท้ายด้วยเมนูไอศกรีมแท่งจิ๋ว ๆ น่ารัก ๆ ที่ทำง่าย ๆ สีสันสดใส
หอมละมุนแต่แอบแฝงไปด้วยความเปรี้ยวให้ได้เข็ดฟันกันเบา ๆ แถมยังเอาใจสาว ๆ
ที่ควบคุมน้ำหนัก เพราะเป็นโยเกิร์ตทั้งแท่ง !
(สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน)
สิ่งที่ต้องเตรียม 
โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2 ถ้วย (ไขมันต่ำ)

โยเกิร์ตรสสตรอว์เบอร์รี 1/2 ถ้วย (ไขมันต่ำ)

สตรอว์เบอร์รี 100 กรัม

พิมพ์ไอศกรีม (หรือแก้วกระดาษ)

ไม้ไอศกรีม
วิธีทำ 
1. หั่นครึ่งสตรอว์เบอร์รี วางลงในพิมพ์สำหรับทำไอศกรีม

2. เทโยเกิร์ตรสธรรมชาติใส่ในพิมพ์ไอศกรีมประมาณ 3/4 พิมพ์ นำเข้าแช่ในช่องแช่แข็งประมาณ 30 นาที

3. นำส่วนผสมออกจากตู้เย็นแล้วใส่โยเกิร์ตรสสตรอว์เบอร์รีทับลงไปด้านบน
นำเข้าช่องแช่แข็งต่อจนแข็งตัว นำออกจากพิมพ์ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่
จัดเสิร์ฟ
อยากจะคลายร้อนกันด้วยไอศกรีมแบบไหน
จะเป็นลูกหรือเป็นแท่งก็เลือกกันได้ตามใจชอบเลยจ้า
ไม่เห็นต้องมีเครื่องทำไอศกรีมสักนิดก็ได้ไอศกรีมเย็นฉ่ำชื่นใจไว้ดับร้อน
ไม่ต้องง้อใครแล้ว
เครดิต จากเว็บไซต์ : http://cooking.kapook.com/view117368.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น